myadcash

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

หนังเรื่อง Police Story 2013

POLICE STORY 2013 วิ่งสู้ฟัด
POLICE STORY 2013 วิ่งสู้ฟัด

POLICE STORY 2013 วิ่งสู้ฟัด

หนังเรื่อง Police Story 2013 วิ่งสู้ฟัด 2013 การกลับอีกครั้งของ แจ๊คกี้ ชาน หรือที่คนได้รู้จักกันในนาม เฉินหลง กับผลงานภาคต่อของหนังแอ็คชั่นที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเขากับ Police Story 2013 หรือ วิ่งสู้ฟัด 2013 เรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นในผับแห่งหนึ่ง เมื่อลูกค้าทั้งหมดที่อยู่ที่นั่นต่างถูกจับให้เป็นตัวประกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ เหมียวเมี้ยว (เทียน จิง) ลูกสาวของ จรงเหวิน (แจ๊คกี้ ชาน) นายตำรวจใหญ่รุ่นเก๋ามากประสบการณ์ เขาจึงต้องนำทีมตำรวจรุ่นใหม่เข้าไปปฏิบัติภารกิจสุดอันตราย ในการยับยั้งอาชญากรรมสุดเร้าใจ ซึ่งจะนำปสู่การไล่ล่า และการเผชิญหน้ากันชนิดที่ผู้ชมต้องตื่นเต้นจนลืมหายใจไม่ว่าจะเป็น “ฟัดท้าตาย” เพื่อต่อสู้กับเหล่าวายร้ายกลางรางรถไฟ ที่แล่นมาด้วยความเร็วสูง “ฟัดวัดใจ” เมื่อแจ๊คกี้ ชาน จะต้องต่อสู้บนยอดตึกสูงหลายสิบชั้น แบบไม่แคร์ความสูง ไม่สนว่าจะสู้อยู่ในองศาไหน ซึ่งจะพิสูจน์ความสามารถในแบบที่เคยทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงมาแล้วทั้งโลก รวมทั้งฉาก “ฟัดลั่นกรงเหล็ก” ซึ่งแจ๊คกี้ ชาน ต้องปะทะกับคู่ต่อสู้รุ่นใหม่ทีเชี่ยวชาญทั้งทักษะการต่อสู้ MMA และมีกลโกงรอบด้านภายในกรงเหล็กที่ล้อมรอบอย่างแน่นหนา การถ่ายทำของ วิ่งสู้ฟัด 2013 เริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ที่กรุงปักกิ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบทบาทของเขา เฉินหลงได้ตัดผมของเขาให้สั้นลงเพื่อความเหมาะสมกับบทของนายตำรวจจีนแผ่นดินใหญ่ เกี่ยวกับบทบาทใหม่ของเขา การจัดฉายรอบปฐมทัศน์ของ วิ่งสู้ฟัด 2013 ได้มีการจัดขึ้นในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง 2013 ช่วงเดือนเมษายน ค.ศ. 2013 รวมถึงเฉินหลงยังได้ทำการโปรโมทในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2013 ช่วงเดือนพฤษภาคม ของปีดังกล่าว โดยภาพยนตร์ชุดนี้ได้รับการกำหนดจัดฉายที่ประเทศจีน ณ วันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2013 โดย วิ่งสู้ฟัด 2013 นี้เล่าเรื่องไม่ต่อเนื่องกับภาคก่อนๆ แต่อย่างใด แต่ก็ยังเป็นเรื่องราวของตำรวจที่มีบาดแผลทางจิตใจอยู่เช่นเคย ซึ่งใน วิ่งสู้ฟัด ภาคนี้เฉินหลงรับบทเป็น จรงเหวิน นายตำรวจที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนลูกสาวที่ห่างหายกันมานานที่ผับแห่งหนึ่ง แต่แล้วกลับต้องพบเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อทุกคนในผับถูกจับเป็นตัวประกันจากคนร้ายที่หวังจะแก้แค้นอะไรบางอย่าง ด้วยวัยของเฮียเฉินหลงที่ดูแก่ตัวลงไปเยอะ ทำให้ฉากแอคชั่นก็เป็นไปตามสภาพความชราที่ร่วงโรยไป จากที่เคยไปวิ่งไล่อัดเขากลับกลายเป็นโดนเขาไล่อัดไปส่วนมาก คิวบู๊ก็ตัดแบบไม่ค่อยสวยเพราะต้องอาศัยมุมกล้องใช้สตันท์อยู่ค่อนข้างเยอะก็ทำเอาเสียความรู้สึกไปพอสมควร อีกทั้งจังหวะการเล่าเรื่องแปลกๆ ที่พยายามหาที่ลงฉากแอคชั่นโดยการเล่าเรื่องในอดีตเป็นฉากๆ จนทำให้ฉากแอคชั่นที่ควรดูอลังการก็กลับกลายเป็นฉากแอคชั่นที่ขาดอารมณ์ร่วมไปอย่างน่าเสียดาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความน่าเอาใจช่วยตัวละครนี้มากขึ้นในสถานะของมวยรองที่ดูสู้สุดชีวิตกว่าจะเอาชนะตัวร้ายสักคนได้ แต่แอคชั่นก็ยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้ วิ่งสู้ฟัด ดูจืดลงไป แต่หากเป็นเพราะบทที่ดูพยายามจะสร้างความแปลกใหม่แต่ยังมีจุดบกพร่องอยู่มากมาย ทั้งเหตุผลที่มารองรับที่น้อย แรงผลักดันของตัวละครที่ดูไม่น่าเชื่อ จนไปถึงการเปลี่ยนธีมหนังให้กลายเป็นแนวสืบสวนซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่สุดท้ายก็ยังไม่เจ๋งพอที่จะดึงดูดให้น่าติดตามได้ เพราะคนส่วนมากก็แทบจะเดากันเอาเองได้ไปตั้งแต่ช่วงกลางๆ เรื่องแล้ว จริงๆ แล้วส่วนตัวชอบหนังของเฉินหลงในช่วงหลังๆ ที่เน้นดราม่าขับเคลื่อนเรื่องมากกว่า แต่ วิ่งสู้ฟัด ในภาคนี้กลับได้หนังรสชาติแปร่งๆ ที่ไปไม่สุดสักทาง แทนที่ฉากแอคชั่นจะขาดไปแล้วจะชดเชยด้วยดราม่าเข้มข้นได้ ยังดีที่เฮียเฉินหลงก็ยังมีศักยภาพเพียงพอที่จะอุ้มหนังไว้ทั้งเรื่องด้วยตัวคนเดียว มีซีนดราม่าหลายๆ ซีนที่เฉินหลงเล่นได้หนักแน่นน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้ว่า วิ่งสู้ฟัด 2013 จะมีข้อเสียของหนังต่างๆ นานา แต่สำหรับแฟนๆ เฉินหลงที่เติบโตมาด้วยกันแล้ว ก็ยังถือเป็นหนังที่พอให้อภัย ดูได้เพลินๆ และยังคงความเป็นเฉินหลงอยู่ในยุคหลังพอ
** ภาพ BLUERAY MASTER เสียงไทย นะครับ **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น